ในบทเรียนนี้เราจะเริ่มเข้าสู่ความตื่นเต้นของเกมโป๊กเกอร์กันมากขึ้นด้วยการเรียนรู้ Preflop Range หรือ ชุดไพ่ที่เราควรเลือกเล่นในช่วง Preflop นั่นเอง  ซึ่งนอกจากเราจะต้องเรียนรู้ว่าควรเลือกเล่นชุดไพ่แบบไหนแล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือเรายังต้องเรียนรู้อีกด้วยว่าชุดไพ่แบบไหนเหมาะสมกับตำแหน่งไหน  เนื่องจากเราไม่สามารถเลือกเล่นชุดไพ่เดิมๆกับทุกตำแหน่งได้  เพราะจะมีเรื่องของ Positional Advantage (ที่เราได้เรียนรู้กันไปแล้วในบทที่ 3)  เป็นปัจจัยสำคัญที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย     

ทำไมต้อง Bet ในรอบ Preflop

ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับ Preflop Range ในแต่ละตำแหน่ง  อยากจะขออธิบายวิธีการเล่น Preflop ว่าถ้าเราได้คัดเลือกไพ่และตัดสินใจว่าจะเข้าไปเล่นใน Pot แล้ว  ส่วนใหญ่เราควรจะเริ่มต้นแอคชั่นด้วยการ Bet…แต่ว่าด้วยเหตุผลอะไรกันล่ะ?    

การ bet ในรอบ Preflop เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเปรียบเหมือนการเริ่มวางโครงสร้างแผนกลยุทธ์ที่ดีก่อนที่เราจะเข้าไปเล่นในรอบ Flop ยิ่งเรามีความรู้ความเข้าใจเรื่องการเลือกไพ่และขนาดการ Bet ก็จะช่วยให้เราสามารถเล่นและเอาชนะ Pot ได้ง่ายขึ้น และทำกำไรได้มากขึ้นอีกด้วย 

มือใหม่ส่วนมากมักเข้าใจผิดและเริ่มต้นเล่นช่วง Preflop ด้วยการ Open Limp ซึ่งถือเป็นการเล่นที่ไม่ดีอย่างมาก  เพราะลองคิดดูว่าถ้าเราถือไพ่ AA และได้แอคชั่นเป็นคนแรก  แทนที่เราจะ Bet เรากลับเลือก Limp ไปเฉยๆ หลังจากนั้นผู้เล่นที่เหลือหมอบหมดเหลือแค่ตำแหน่ง Big Blind เท่านั้น  สุดท้ายแล้วเราก็เสียโอกาสในการ Build pot (พยายามสร้าง Pot ให้ใหญ่) ให้กับไพ่ที่ดีที่สุดของเรา และเอาชนะมาได้เพียง Pot เล็กๆเท่านั้น 

มือใหม่หลายๆคนไม่ Bet ที่จุดนี้เพราะกลัวว่าคนอื่นๆจะหมอบไปหมดและไม่มีใคร Call มาเล่นกับ AA ของพวกเขา  แต่จริงๆแล้ว เราควรระลึกไว้เสมอว่าเมื่อเรามีไพ่ดีๆ เราก็จะมีโอกาสชนะมากขึ้น ดังนั้นเราควรจะเริ่ม Bet หรือ Raise ในตำแหน่งและในจังหวะที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มมูลค่า Pot ให้ใหญ่ขึ้นนั่นเอง เราไม่ควรเปิดโอกาสให้คู่แข่งได้เข้ามาดู Flop ในราคาถูกเกินไป

หรืออีกตัวอย่าง หากเราเลือก Limp คู่ AA แล้วคู่ต่อสู้ Call กันมา 4-5 คน ต่อให้เราถือ AA ที่เป็นไพ่ดีที่สุดในรอบ Preflop แต่ถ้ามีคู่ต่อสู้ Call มากันเยอะเกินไป ในรอบ Flop เปอเซ็นต์ชนะของคู่ AA จะเหลือประมาณ 50% เท่านั้น 

ดังนั้นนอกจาก Raise เพื่อเพิ่มมูลค่า Pot ยังเป็นการ Raise เพื่อไม่ให้คู่ต่อสู้เข้ามามากเกินไปอีกด้วย

เราควร Open Raise เท่าไหร่ในรอบ Preflop

หลักการแนะนำในการ Open Raise (เริ่ม Raise เป็นคนแรก) ในรอบ Preflop คือ ถ้าผู้เล่นทุกคนก่อนหน้าหมอบกันหมดและเราเป็นคนแรก ให้ Raise เป็น 2.5-3 เท่าของมูลค่า bb  แต่ถ้าหากมีผู้เล่นก่อนหน้า Call ไปก่อน ให้เราเพิ่ม Raise ตามจำนวนของผู้เล่นที่ Call มาก่อนหน้า  เช่น ถ้าเล่นเกม $1/$2 มีคน Call 2 คนก่อนหน้าเรา  จำนวนที่เหมาะสมที่เราจะ raise ไปคือ $4.5-$5 (2.5 ถึง 3เท่า + 2) นั่นเอง

ทั้งนี้ทั้งนั้น…ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงคำแนะนำ อย่ายึดติดว่าจะต้องใช้ Bet Size นี้เท่านั้น  แต่เราจะต้องปรับใช้ตามความเหมาะสมและตามสถานการณ์ในแต่ละเกมที่เล่น ถ้าหากเกมที่คุณเล่นเป็นเกมที่ไม่แข็งนัก (มีผู้เล่นอ่อนกว่าเราโดยเฉลี่ย)  เราก็สามารถใช้ Bet Size สูงขึ้น แต่หากเกมที่คุณเล่นเป็นเกมที่แข็งๆ เราก็ควรใช้ Bet Size ในราคาที่ต่ำลง

เราจะ Open Raise Preflop ด้วยไพ่อะไร?

เราได้ทำความเข้าใจกันไปแล้วว่าทำไมการ Raise ในช่วง Preflop จึงเป็นสิ่งสำคัญ  ตอนนี้เราจะมาดูกันต่อว่าในช่วง Preflop เราควรเลือก Open Raise ด้วยไพ่อะไรจากในตำแหน่งไหน  

ตารางด้านล่างเป็น Preflop Raise First In (RFI) ของไพ่ที่สามารถ Open Raise (เป็นคนแรกที่เริ่ม Raise) ได้ในรอบ Preflop หากผู้เล่นก่อนหน้าเราหมอบกันหมด ย้ำอีกครั้งว่านี่คือตารางสำหรับ Open Raise เท่านั้น แต่ถ้ามีคนก่อนหน้า Open Raise มาก่อนเรา  การเลือกไพ่จะแตกต่างไปอีก โดยเราควรเลือกเล่นไพ่ที่แข็งขึ้นกว่าเดิม

วิธีอ่านตาราง Range ไพ่

ให้เริ่มต้นดูจากชื่อตารางด้านบนว่าเป็นชุดไพ่ (Range) สำหรับอะไร เช่น ตารางแรกด้านล่างเป็น Range สำหรับ Open-Raise จากตำแหน่ง UTG

สีแดง หมายถึง Range ไพ่ที่เราสามารถ Open Raise

สีม่วง หมายถึง Range ไพ่ที่เราจะ Fold

s หมายถึงไพ่ดอกเดียวกัน (suit) เช่น AKs หมายถึงไพ่ AK ที่มีดอกเดียวกัน

o หมายถึงไพ่คนละดอก (off-suit) เช่น AKo หมายถึงไพ่ AK ที่มีคนละดอก

เราจะสังเกตเห็นว่าไพ่คู่จะอยู่ตรงแกนกลางของตารางโดยเริ่มต้นจากมุมซ้ายบนด้วยคู่ใหญ่ที่สุดอย่าง AA เรียงทะแยงลงล่างไปเรื่อยๆจนถึงคู่เล็กที่สุดอย่าง 22 ที่อยู่ทางด้านมุมขวาล่าง  และพื้นที่ด้านบนของแกนไพ่คู่จะเป็นโซนไพ่ suit ทั้งหมด  ในทางตรงกันข้าม…พื้นที่ด้านล่างของแกนไพ่คู่ก็จะเป็นโซนไพ่ off-suit ทั้งหมด  

♠️❤️♣️♦️♠️❤️♣️♦️♠️❤️♣️♦️♠️❤️♣️♦️♠️❤️♣️♦️♠️❤️♣️♦️

บทสรุปจากบทที่ 9