ขนาดของการ raise เป็นประเด็นหนึ่งที่สำคัญ ไม่น้อยไปกว่าขนาดของการ bet เพราะมันอยู่ใน concept เดียวกัน ที่จะส่งผลถึงเรื่อง pot odds และ EV ของเรา นั่นแปลว่า ถ้าเราใช้ขนาดของการ raise หรือ bet ไม่เหมาะสมกับ range ที่คู่แข่งจะเล่นต่อได้ ก็จะทำให้คู่แข่งมี pot odds ที่ดี หรือแย่เกินไป ทำให้เราเสีย EV ได้ในระยะยาว เราจึงควรเรียนรู้ขนาดของการ raise ที่เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ไว้ เพื่อให้เราเล่นได้อย่าง optimal ที่สุดนั่นเอง

ซึ่งขนาดของการ raise ที่เหมาะสม ที่ผมอยากขอแนะนำ มีดังนี้ 

=================================

1. ขนาดของการ open raise

ในปัจจุบัน หากเป็นการเล่นแคชเกม 100bb บนโต๊ะ regular ที่คนบนโต๊ะส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นที่เล่นเป็น และมีฝีมือในการเล่นพอสมควร เราไม่จำเป็นต้องเปิดใหญ่ถึง 3x เหมือนกับเวลาเราเล่นบนโต๊ะที่มี fish เยอะๆ (ที่เรายังสามารถเปิด 3x กับโต๊ะที่มี fish เยอะๆ หรือในเกม stake ระดับเล็กๆได้ ก็เพราะถ้าเราเป็น winning player เรามีโอกาสจะทำกำไรกับ fish ได้มากอยู่แล้ว การใช้ไซส์ใหญ่ ก็จะยิ่งช่วยให้เราทำกำไรกับ fish ได้มากขึ้น) โดยอาจจะเปิดแค่ 2x-2.5x ตามตำแหน่งก็พอ โดยยิ่งอยู่ตำแหน่งท้ายๆ ยิ่งเปิดได้ใหญ่ขึ้น เนื่องจากได้เปรียบด้านตำแหน่งมากขึ้น (ตำแหน่ง EP เปิด 2x ตำแหน่ง MP เปิด 2.3x ตำแหน่ง LP เปิด 2.5x)

ส่วนการเล่นในทัวร์นาเมนต์ โดยทั่วไปเมื่อเรายังไม่ short stack มาก เราอาจจะสามารถเปิดได้ที่ 2.2x-2.3x ได้จากทุกตำแหน่ง แต่หากเราเริ่ม short stack (มี stack ต่ำกว่า 25bb) เราอาจจะลดขนาดของการเปิดลง มาเหลือที่ประมาณ 2x-2.1x ก็พอ เนื่องจากเป็นช่วงที่ SPR เหลือน้อย หากโดน raise เราจะได้สามารถ fold ได้ โดยเสียชิพน้อยลง (สำหรับ short stack แล้ว เพียง 0.1-0.2bb ก็มีความหมาย) 

=================================

2. ขนาดของการ 3bet

ต่อจากนี้ หากเราไม่ใช่คนเปิด หรือคน bet ก่อน ขนาดของการ raise ที่เราจะใช้ ควรจะแปรผันตามขนาดของการ bet ก่อนของคู่แข่งเป็นหลัก (ไม่ fix ขนาดของการ raise) ยิ่งคู่แข่งใช้ขนาด bet เล็ก เราจะยิ่งสามารถ raise ได้ใหญ่ขึ้น ยิ่งคู่แข่งใช้ขนาด bet ใหญ่ เราจะยิ่งควรใช้ขนาดของการ raise เล็กลง เทียบกับขนาดที่คู่แข่ง bet มา เนื่องจากยิ่ง pot ใหญ่ ขนาดของการ raise จะยิ่งมีความ sensitive สูงขึ้น (มีผลต่อการตัดสินใจมากขึ้น)

(*ยกเว้น เมื่อเราแน่ใจว่า คู่แข่งเป็น fish แล้วเรามี value hand ที่ดี เราอาจจะยังใช้ raise ใหญ่เหมือนเดิมได้ เพราะ fish ไม่ค่อย sensitive กับขนาดของการ raise เท่าไหร่ ถ้าแฮนด์ของเขาโอเคพอ เจอเรา raise ใหญ่แค่ไหน เขาก็มักจะ call มาได้อยู่ดี ถ้าไม่ raise ใหญ่มากจนเกินไป)

ซึ่งขนาดของการ 3bet ที่เหมาะสม สำหรับแคชเกม 100bb จะอยู่ที่ประมาณ 3x-3.5x เมื่อเรา IP และ 4.5x-5.5x เมื่อเรา OOP ขึ้นอยู่กับขนาดของการเปิดของคู่แข่ง  

สำหรับทัวร์นาเมนต์ ยิ่ง stack เล็กลง เราจะยิ่งใช้ขนาด 3bet เล็กลง ดังนี้

50-100bb = 3.5x-4x

30-50bb = 3x-4x

น้อยกว่า 30bb = 2.6x-3x หรือ all-in เลย

=================================

3. ขนาดของการ 4bet

สำหรับแคชเกม จะอยู่ที่ประมาณ 2.5x-2.6x สำหรับ IP และ 2.7x-2.8x สำหรับ OOP 

สำหรับทัวร์นาเมนต์ จะอยู่ที่ประมาณ 2.2x-2.3x สำหรับ IP และ 2.6x-2.8x สำหรับ OOP เมื่อ stack มากกว่า 50bb เท่านั้น (ถ้า 50bb ลงมา จะ 4bet all-in อย่างเดียว)

=================================

4. ขนาดของการ raise ที่ postflop

การ raise ที่ postflop ตามหลักการแล้ว เรามักจะไม่คิดเป็น x เท่าของที่ bet มา เนื่องจาก pot จะเริ่มใหญ่กว่าตอน preflop มาก ดังนั้น ขนาดของการ raise เราจะใช้วิธีคิดเป็น “% จาก pot หลังจากที่เรา call bet แล้ว” มากกว่า

ตัวอย่างเช่น pot 100 คู่แข่ง bet มา ½ pot ที่ 50 หากเราจะ raise ต้องคิดเป็น % ของ pot หลังจากที่เรา call bet 50 ของคู่แข่งแล้ว ซึ่งก็จะทำให้ pot มีอยู่ 200 สมมติเรา raise 50% pot ก็คือ raise 100 บวกกับที่เราต้อง call bet ก่อน 50 ทำให้รวมแล้ว เราจะ raise ไป 100+50 = 150 หากเราจะ raise 50% pot ของที่คู่แข่ง bet มา นั่นเอง  

ซึ่งส่วนมากแล้ว เราจะใช้ขนาดของการ raise ไม่น้อยกว่า 50% pot หลังจาก call bet (จะมากกว่านี้เท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับความ sensitive ในการ call ของคู่แข่งเป็นหลัก)

นอกเหนือจากนี้ เราต้องประเมินเรื่องของ SPR เอาไว้ด้วย โดยกะประมาณให้หาก raise แล้วคู่แข่ง call มา เราจะต้องมีโอกาส all-in โดยคู่แข่งเหลือ SPR ประมาณ 0.5-0.6 เท่า (เหลือ stack ประมาณ 50-60% ของ pot) เพื่อให้คู่แข่งยังต้องตัดสินใจลำบากอยู่บ้าง ว่าจะ call หรือ fold all-in ของเรา (เนื่องจากเราควรจะต้องมี bluff อยู่ใน raising range ของเรา และมี all-in ที่เป็น bluff อยู่ด้วย เราจึงต้องเหลือไซส์ ให้คู่แข่ง fold ได้บ้าง) ไม่อย่างนั้น หาก raise แล้วคู่แข่ง call มา แล้วเหลือ stack เล็กเกินไป (SPR ต่ำกว่า 0.4 เท่า) ก็มีโอกาสสูงที่คู่แข่งจะไม่ fold อะไรทั้งนั้น เนื่องจาก pot committed มากเกินไปแล้วนั่นเอง

ดังนั้น หากเราจะ raise ในขณะที่ pot ใหญ่มากๆ และ SPR เริ่มเหลือน้อย เราจึงควรลด % ในการ raise เหลือประมาณ 35% pot ก็พอ เพื่อไม่ให้ SPR เหลือน้อยเกินไปใน street ถัดไป และคู่แข่งยัง fold ได้อยู่

=================================

ทั้งหมดนั่นคือแนวทางของการใช้ขนาดการ raise ที่เหมาะสม ที่ผมแนะนำไป ก็ขอให้เพื่อนๆ นำไปปรับใช้เหมาะสมกับสถานการณ์และคู่แข่งที่เราเจอ แต่ละประเภทนะครับ หากใช้อย่างถูกต้องจนคล่องแคล่วแล้ว รับรองว่า เราจะเป็นผู้เล่นที่ strong และ EV ระยะยาวของเราจะดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ

#Zuburbian1

#TeamAceAcademy